
ขั้นตอนการเคลมประกันรถ
เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นบนท้องถนน สิ่งสำคัญที่ต้องทำอันดับแรกก่อนเคลมประกันรถยนต์ก็คือ การตั้งสติให้ดี เพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานต่างๆ ทั้งความเสียหาย สถานที่เกิดเหตุ แล้วจึงโทรไปแจ้งยังศูนย์ประกันรถยนต์ที่คุณทำประกันรถยนต์เอาไว้ โดยการเรียกเคลมประกันรถยนต์ จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1.เคลมประกันรถยนต์แบบสด
การเคลมประกันรถยนต์แบบสด หรือที่เราเรียกกันว่า ‘เคลมสด’ คือการเคลม ณ ที่เกิดเหตุ โดยจะมีพนักงานของบริษัทประกันที่เราทำไว้มาตรวจสอบ ณ ที่เกิดเหตุทันที โดยสามารถแยกประเภทของการประกันรถยนต์แบบสดออกเป็น 2 แบบ ดังนี้
1.1 การเคลมสดแบบมีคู่กรณี คือ การเกิดอุบัติเหตุแบบรถชนกับรถกันเอง โดยพนักงานจากบริษัทประกันจะตรวจสอบและพิจาราณาว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิด ซึ่งฝ่ายที่ผิดอาจต้องจ่ายค่าเสียหายในส่วนแรก (Deductible) ให้กับคู่กรณีก่อน ตามที่ได้ตกลงกับบริษัทประกันเอาไว้ หากเกิดเหตุดังกล่าวที่มีคู่กรณี คันที่ทำประกันรถยนต์กับวิริยะไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเสียหายในส่วนแรก
1.2 การเคลมสดแบบไม่มีคู่กรณี คือ ในกรณีที่รถของผู้เอาประกันเกิดอุบัติเหตุชนเข้ากับสิ่งของหรือวัตถุจนเกิดความเสียหายเยอะ เช่น ชนเข้ากับต้นไม้หรือเสาไฟฟ้า เป็นต้น ทางผู้เอาประกันที่เป็นเจ้าของรถอาจต้องจ่ายค่าเสียหายในส่วนแรก (Excess) ไปก่อนเสมอ
2. เคลมประกันรถยนต์แบบแห้ง
สำหรับการเคลมประกันรถยนต์แบบแห้ง คือ การเคลมหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไประยะหนึ่งแล้ว (ไม่เกิน 2-3 วัน) ซึ่งตามหลักปฏิบัติเคลมแห้ง สามารถทำได้จนกว่าก่อนประกันจะหมด สาเหตุการเคลมมักจะเกิดจากกรณีที่เกิดการเฉี่ยวชนหรืออุบัติเหตุแบบเบาๆ โดยผู้ถือประกันต้องสามารถระบุรายละเอียดว่าเกิดอุบัติเหตุได้อย่างไร วันที่เท่าไหร่ สถานที่ไหน ชนเข้ากับอะไร แล้วจึงแจ้งเคลมกับบริษัทประกันของตนเอง ซึ่งการเคลมประกันรถยนต์แบบแห้ง จะมีเพียงแค่ประกันชั้น 1 เท่านั้น ที่ครอบคลุมไปถึงการเคลมรอบคัน ซึ่งเป็นการเก็บรายละเอียดร่องรอยต่างๆ รอบตัวรถให้กับคุณ ตามเงื่อนไขความคุ้มครองกรมธรรม์