
อย่างที่ทุกคนทราบกันว่า พ.ร.บ. รถยนต์ หรือประกันรถยนต์ภาคบังคับ เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำและมีไว้ติดรถยนต์ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วผู้ประสบภัยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จะสามารถเคลม พ.ร.บ. รถยนต์ หรือเบิกประกัน พ.ร.บ. รถยนต์ได้ ดังนี้
1. ค่าเสียหายเบื้องต้น (สามารถเคลมได้ โดยยังไม่ต้องพิสูจน์ความผิด)
- ค่ารักษาพยาบาล (จ่ายตามจริง) ในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บ โดยสามารถเบิกได้สูงสุด 30,000 บาท
- กรณีผู้ประสบภัยเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร (พิการ) สามารถเบิกได้สูงสุด 35,000 บาท
- โดยในกรณีที่ได้รับความเสียหายทั้ง 2 รูปแบบ จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นชดเชยรวมกันไม่เกิน 65,000 บาท
2. ค่าเสียหายส่วนเกิน
ในส่วนนี้จะจ่ายหลังจากที่พิสูจน์ความผิดแล้ว โดยบริษัทประกันของฝ่ายที่ผิดจะเป็นคนชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ประสบภัยหรือทายาทของผู้ประสบภัย ซึ่งแบ่งเป็นกรณีดังนี้
- กรณีบาดเจ็บ จะจ่ายชดเชยค่ารักษาพยาบาล รวมค่าสินไหมทดแทนให้ไม่เกิน 80,000 บาท
- กรณีเสียชีวิต ทุพพลภาพ หรือสูญเสียอวัยวะ จะจ่ายชดเชยให้ทั้งหมดเป็นจำนวน 300,000 บาท ซึ่งรวมถึงค่ารักษาพยาบาลด้วย
3. ค่าสินไหมทดแทน (กรณีที่เป็นฝ่ายถูก)
ในกรณีที่ผู้ประสบภัยพิสูจน์แล้วว่าเป็นฝ่ายถูก จะสามารถเบิกค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมได้ดังต่อไปนี้
- ค่ารักษาพยาบาล (ตามจริง) สูงสุดคนละ 80,000 บาท
- กรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวร คนละ 500,000 บาท
- กรณีสูญเสียอวัยวะ 2 ส่วนขึ้นไป ได้รับเงินชดเชยคนละ 500,000 บาท
- กรณีสูญเสียอวัยวะ 1 ส่วน ได้รับเงินชดเชยคนละ 250,000 บาท
- กรณีสูญเสียนิ้ว ตั้งแต่ 1 นิ้วขึ้นไป ได้รับเงินชดเชยคนละ 200,000 บาท
- ทุพพลภาพถาวร (ในกรณีนี้หมายถึง ไม่สามารถประกอบอาชีพประจำได้) ได้รับเงินชดเชยคนละ 300,000 บาท
- กรณีนอนรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ได้รับเงินชดเชยวันละ 200 บาท (ไม่เกิน 20 วัน)
กรณีบาดเจ็บ
กรณีเสียชีวิต
กรณีทุพพลภาพ
กรณีเบิกค่ารักษาพยาบาล ผู้ป่วยใน
หากฝ่าฝืนไม่ทำ พ.ร.บ. รถยนต์ หรือไม่ได้ทำการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ ที่ขาดจะเท่ากับการกระทำผิดกฎหมาย โดยมีบทลงโทษ ดังนี้