
เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้นและมีคู่กรณี แต่คนขับไม่มีใบขับขี่ ทางประกันรถที่ทำอยู่จะจ่ายเงินชดเชยให้ทั้งตัวร่างกายบุคคลและทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น โดยไม่สามารถเรียกเงินประกันกับผู้เอาประกันได้ ซึ่งความคุ้มครองความเสียหายต่อบุคคลภายนอกก็มีส่วนที่ยกเว้นอยู่ ดังนี้
1. ไม่คุ้มครองทรัพย์สินของผู้เอาประกัน รวมไปถึงครอบครัวของผู้เอาประกันด้วย หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น
2. ไม่คุ้มครองทรัพย์สินและสัมภาระที่อยู่ในรถ ทั้งของตัวคุณและคู่กรณี
3. ไม่ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากน้ำหนักของรถยนต์ หรือน้ำหนักบรรทุกของรถยนต์ เช่น ผู้ขับขี่อาจบรรทุกของหนัก ส่งผลให้ถนนที่ขับผ่านเกิดความเสียหาย ในกรณีนี้ทางประกันรถที่ทำอยู่จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น เป็นต้น
ในส่วนของความคุ้มครองรถยนต์ที่ทำประกันรถยนต์เอาไว้จะต้องแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้น ซึ่งคนขับไม่มีใบขับขี่และเป็นฝ่ายถูก กับ คนขับไม่มีใบขับขี่และเป็นฝ่ายผิด โดยขึ้นอยู่กับบริษัทประกันรถพิจารณา ดังนี้
ในกรณีที่คนขับไม่มีใบขับขี่แต่เป็นฝ่ายถูก และรถยนต์ทำประกันรถชั้น 1, 2+, 3+ เอาไว้ บริษัทประกันรถจะรับผิดชอบในส่วนค่าซ่อมของผู้ขับขี่ รวมถึงจะเป็นผู้เรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดเอง แต่ถ้าคนขับไม่มีใบขับขี่และไม่ได้ทำประกันรถยนต์ด้วยแล้ว ผู้ขับขี่จะต้องไปเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีเอง รวมถึงจะได้รับความผิดจากกรณีที่ไม่มีใบขับขี่ตามกฎหมาย พ.ร.บ. จราจรขนส่งทางบกอีกด้วย
สำหรับกรณีที่คนขับไม่มีใบขับขี่และเป็นฝ่ายผิด เบื้องต้นอาจจะต้องตรวจสอบดูก่อนว่าไม่มีใบขับขี่เพราะสาเหตุใด เพื่อที่ประกันรถจะได้พิจารณาได้ถูกต้อง ดังนี้
1. กรณีที่คนขับไม่มีใบขับขี่หรือไม่เคยสอบใบขับขี่ ทางประกันรถจะไม่รับผิดชอบค่าเสียหายต่างๆ ทุกกรณี แต่จะชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อบุคคลแทน ตามเงื่อนไขของประกันรถตามกรมธรรม์นั้นๆ
2. คนขับมีใบขับขี่แต่ใบขับขี่หมดอายุ ในกรณีนี้ทางบริษัทประกันรถจะให้ความคุ้มครองทุกกรณีทั้งรถของผู้ขับขี่และคู่กรณี
3. กรณีสุดท้ายคือคนขับถูกยึดใบขับขี่ ผู้ขับขี่จะต้องคัดลอกสำนวนเพื่อนำมายืนยันกับทางบริษัทประกัน เพื่อขอรับความคุ้มครองทั้งรถของตนเองและคู่กรณี