
รถยนต์ไฟฟ้า คือ รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ด้วยการใช้ไฟฟ้าที่มาจากแบตเตอรี่หรืออุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งเป็นรถยนต์ที่นำนวัตกรรมไฟฟ้ามาใช้โดยเฉพาะและสามารถชาร์จไฟฟ้าได้ตลอดเวลา เมื่อแบตเตอรี่หมด โดยรถยนต์ไฟฟ้าจะมีตัวขับเคลื่อนหลักๆ คือ แบตเตอรี่ อุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้าและมอเตอร์ไฟฟ้านั่นเอง
รถยนต์ไฟฟ้านั้นถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภทด้วยกัน ดังนี้

รถยนต์ไฟฟ้าประเภทแรก คือ รถไฮบริด ซึ่งเป็นรถยนต์แบบผสมระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้ากับแบตเตอรี่ที่ทำงานร่วมกัน จึงทำให้รถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริด เป็นรถยนต์ที่มีการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำกว่ารถยนต์ทั่วไป โดยข้อดีของรถยนต์ไฮบริดคือการนำพลังงานที่ไม่ได้ใช้ไปเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าได้อีกด้วย โดยเก็บไว้ที่แบตเตอรี่

ประเภทต่อมาคือรถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอิน ซึ่งจะมีความคล้ายคลึงกับรถยนต์ประเภทไฮบริด แต่จะแตกต่างกันตรงที่ประเภทปลั๊กอินสามารถชาร์จไฟฟ้าจากภายนอกได้ โดยอาจใช้เป็น EV Charger หรือ สายชาร์จที่มาพร้อมกับตัวรถได้ ส่วนในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้ขับเคลื่อนด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ โดยไม่ต้องใช้น้ำมัน แต่จะสามารถขับเคลื่อนได้ในระยะทางสั้นๆ เท่านั้น

รถยนต์ประเภทนี้เป็นรถยนต์ที่ไม่มีการปล่อยไอเสียออกมา เนื่องจากเป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าและใช้พลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้า โดยมาจากการเสียบปลั๊กชาร์จไฟฟ้าเพียงเท่านั้น ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่ารถประเภทนี้ไม่มีการปล่อยมลพิษทางอากาศออกมาอย่างแน่นอน เพราะแบบนี้จึงทำให้รถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้มีตัวแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่ารถประเภทอื่นๆ

รถยนต์ไฟฟ้าประเภทสุดท้าย เป็นรถยนต์ที่ได้พลังงานมาจากการเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจน ส่งไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อใช้ในการขับเคลื่อน และมีความจุที่มากกว่าแบตเตอรี่ที่มีในปัจจุบันของรถประเภทอื่น แต่ข้อจำกัดของรถประเภทนี้คือ สถานีเชื้อเพลิงไฮโดรเจนมีน้อยมาก จึงอาจทำให้การใช้งานไม่สะดวกสบายเหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้าประเภทอื่นนั่นเอง
เพราะรถยนต์ไฟฟ้านั้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและช่วยประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง เนื่องจากไม่มีการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่ส่งผลให้เกิดมลพิษทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็นควันไอเสีย ฝุ่น ที่อาจส่งผลให้เกิดสภาวะโลกร้อนและฝุ่น PM2.5 อีกด้วย
เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ใช้ไฟฟ้าเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงช่วยให้ประหยัดเงินในส่วนของการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงหรือแก๊ส เพราะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ไฟฟ้าได้ตามสถานีต่างๆ หรือที่บ้าน รวมถึงประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าซ่อมบำรุงอีกด้วย
ในจุดนี้คนที่เคยลองขับขี่หรือใช้รถยนต์ไฟฟ้าอยู่จะรับรู้ได้เลยว่า รถยนต์ไฟฟ้านั้นไม่มีเสียงรบกวนแม้แต่นิดเดียว เพราะไม่มีเครื่องยนต์ที่ก่อให้เกิดเสียงนั่นเอง
เพราะรถยนต์ไฟฟ้าไม่จำเป็นต้องอุ่นเครื่องยนต์ก่อนที่จะเริ่มทำความเร็ว ดังนั้นรถยนต์ไฟฟ้าจึงมีความเร็วตั้งแต่เริ่มสตาร์ทเลย
ถึงแม้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า แต่ในเรื่องของความปลอดภัยก็สูงไม่แพ้กับรถยนต์ทั่วไปเลย เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าสามารถที่จะขับขี่ผ่านจุดน้ำท่วมขังได้ โดยที่ไร้ปัญหาเรื่องไฟช็อต
เชื่อว่าคงเป็นคำถามที่หลายคนสงสัยกันอย่างแน่นอน กับเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้าสามารถทำประกันรถยนต์ได้ไหม? ต้องขอตอบเลยว่า “สามารถทำได้” โดยสามารถทำประกันรถยนต์ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1,2,2+,3 และ 3+ เพราะรถยนต์ไฟฟ้านับเป็นรถยนต์ประเภทหนึ่งที่ขับขี่บนท้องถนน แต่ในเรื่องของเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าจะมีราคาที่สูงกว่าการทำประกันรถยนต์ทั่วไปนั่นเอง